เที่ยวมาเก๊า เที่ยวโบสถ์ที่เหลือเพียงแค่ซากที่นักท่องเที่ยวให้ความสนและซึ่งถือว่าเป็นเหมือนกับสัญลักษ์ของมาเก๊าจะสวยงามเพียงใด?

เที่ยวมาเก๊า ท่านใดที่กำลังมองหา ที่เที่ยวยอดนิยม ที่มาเก๊าวันนี้เรามีที่เที่ยวมาแนะนำ ให้ทุกท่านได้ไปสัมผัสกัน มากันที่เที่ยวที่แรกเลยนั่นก็คือ ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล Ruins of St. Paul ที่นี่จะเป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียง ขอฃมาเก๊าที่เหลือเพียงแค่ซาก ทางด้านหน้าของอาคารเท่านั้น และหากใครที่มามาเก๊า พลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด

โดยทางขึ้นไปที่โบสถ์แห่งนี้ ก็จะต้องขึ้นทางบันไดหิน โดยที่ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลนั้น ก็จะอยู่ทางด้านบนสุด ที่ถือว่าเป็นสัญลักษ์ของมาเก๊า โดยโบสถ์เซนต์ปอล ได้มีการสร้างขึ้นเมื่อในปี 1580 เวลาผ่านไปประมาณ 15 ปี ก็ได้เกิดเหตุการไฟไหม้ และไฟก็ไหม้อีกครั้งใน 6 ปีต่อมา และหลังจากเกิดเหตุการไฟไหม

ก็ได้มีการซ่อมบำรุงอยู่หลายปี และกลับมาสวยเหมือนเดิม แต่ในปี 1835 ก็ได้เกิดเหตุการณ์พายุไต้ฝุ่น จึงทำให้โบสถ์แห่งนี้ได้ถูกไฟไหม้อีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 และทำให้คราวนี้เหลือเพียงแค่ กำแพงทางเข้าโบสถ์ด้านหน้า โดยในปี 1991 ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ ที่ทำให้เราได้เห็นกำแพงโบสถ์ ที่สวยงามอย่างในปัจจุบัน

ที่เที่ยวมีชื่อเสียง โดยกำแพงเซนต์พอลแห่งนั้น จะมีด้วยกันทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่งชั้นแรกเป็นทางเข้า ที่มีด้วยกันทั้งหมด 3 ช่อง จะเค็มไปด้วยเสาโบราณในทรงโรมัน และในส่วนของชั้นที่ 2 ก็จะเป็นหน้าต่างที่มี 3 ช่อง และ 3 ชั้นที่เหลือนั้นได้มีการตกแต่ง ทึ่เต็มไปด้วยปูนปั้นในรูปต่างๆ ที่มีความสวยงามอย่างมาก

เที่ยวมาเก๊า เที่ยวหนึ่งในจตุรัสที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของมาเก๊าที่ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจะมีความสำคัญอย่างไรบ้าง?

ใครที่ได้ไปเที่ยวมาเก๊า พลาดไม่ได้กับ ที่เที่ยวติดอันดับ ที่มีชื่อเสียงอันดันต้นๆ ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก หลัฃไหลกันไปไม่ขาดสาย กับที่เที่ยวแห่งนี้นั่นก็คือ เซนาโด สแควร์ Senado Square ซึ่งเป็นจตุรัสที่อยู่ใจกลางเมือง ของมาเก๊าที่นี่จะเต็มไปด้วย บ้านช่องและโบสถ์รงมไปถึงตึก ที่เป็นสไตล์แบบยุโรป โดยได้รับอิทธิพลมาจาก ประเทศโปรตุเกส

และจะมีร้านค้าเปิดให้บริการทั้ง 2 ข้างทาง ซึ่งร้านค้าของที่นี่ส่วนใหญ่ ก็จะเป็นร้านขายขนม ร้านเสื้อผ้า และร้านอาหารจีน โดยทางเดินต่างๆของที่นี่ จะตกแต่งด้วยกระเบื้อง และหินโมเสสหลากสี โดยมีการออกแบบลวดลาย ที่เป็นชาวโปรตุเกส และในส่วนอาคารต่างๆ ก็จะเป็นสไตล์ยุโรป ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจตุรัสแห่งนี้

จะกฎว่าไม่ให้ ร้านต่างๆทำการตกแต่งผนัง ทางด้านหน้าตึกโดยเอง ถ้าหากจะมีการตกแต่ง หรือมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะต้องแจ้งไปยังทางการก่อน จึงจะสามารถตกแต่งใหม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตึกต่างๆ อยู่คงสไตล์ดั้งเดิมอยู่ ที่จะเเป็นทางเดินคดเคี้ยว ไปตามทางที่จะไปที่ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ที่เเที่ยวรอบโลก

ป้อมปืนใหญ่มองเต ซากประตูโบสถ์เซนต์พอล พิพิธภัณฑ์มาเก๊า ซึ่งเซนาโด สแควร์แห่งนี้ ถือว่าเป็น 1 ใน 4 จตุรัสที่ขนาดใหญ่ และติดอันดับต้นๆของมาเก๊า โดยที่จตุรัสแห่งนี้นั้น ก็ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ไม่ว่าใครที่ไปมาเก๊า ต่างก็แวะมาเที่ยจตุรัสแห่งนี้ ที่ทุกท่านไม่ควรพลาด

เที่ยววัดที่มีมาอย่างยาวนานโดยได้มีการสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนที่จะมีเมืองมาเก๊าเกิดขึ้นที่ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก

เรามาต่อกันที่ ที่เที่ยวต่างประเทศ ที่มีความเก่าแก่อย่างมาก รวมไปถึงมีความสำคัญ ของมาเก๊าอีกด้วยนั่นก็คือ วัดอาม่า A Ma Temple ซึ่งเป็นวัดที่มีมาอย่างยาวนาน และมีชื่อเสียงแห่งมาเก๊า โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศนิยมมากัน เพื่อใากราบไหว้ขอพร โดยวัดแห่งนี้ได้มีการสร้างขึ้น ก่อนที่จะมีเมืองมาเก๊าซะอีก

ด้วยความเก่าแก่ของที่นี้ จึงทำให้เป็นวัดที่มีความสำคัญ อีกแห่งหนึ่งของมาเก๊า และมีความเชื่อกันว่าที่มาของ ชื่อมาเก๊านั้นจากในบริเวณ วัดอาม่าแห่งนี้นี่เองเพคาะในอดีต ที่นี่จะมีอ่าวที่ชื่อว่า A Ma Goa อาม่าก๊อก ที่มีความหมายว่า อ่าวของอาม่า และได้เรียกเพี้ยนจนมาเป็น มาเก๊า ทึ่เรารู้จักกันในปัจจุบัน โดยวัดอาม่าแห่งนี้นั่น

จะตั้งอยู่ในทางตอนใต้ ของเกาะมาเก๊าโดยที่ ภายในวัดมีจุดกราบไหว้ เพื่อเป็นการขอพรหลายจุด โดยในแต่ละจุดก็จะอยู่ที่เนินเขา นักท่องเที่ยวจะต้องเดินขึ้นไป และในแต่ละชั้นนั้นก็จะมี ศาลเจ้า ประตูโบราณ ศาลา แงะรยมไปถึงสิ่งศักสิทธิ์ต่างๆ

ให้นักท่องเที่ยวได้ไปขอพร โดยภายในวัดแห่งนี้นั้น ก็จะเป็นสถาปัตยกรรม ที่มีความงดงามอย่างมาก และสไตล์ในแบบจีนโบราณ ด้วยคงามงดงามจนทำให้ เป็นเอกลักษณ์ของสัดแห่งนี้ ทำใหตักท่องเที่ยวนิยม เดินทางมากราบไหว้และ ได้มาเที่ยวชมบริเวณวัด อาม่าแห่งนี้

ไม่ได้มีเพียงแค่ความงดงาม หรือความเก่าแก่เท่านั้น ที่นี้ยังมีตำนานมากมาย ที่ทำให้ได้รับความสนใจ จากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และอย่างให้ทุกท่านได้ไปสัมผัส ซักครั้งหนึ่งในชีวิต รับรองท่านจะไม่ผิดหวังแน่นอน

เที่ยวป้อมปราการที่มีความเก่าแก่ที่สุดของมาเก๊าโดยสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นฐานในการป้องกันโบสถ์เซนต์พอล

อีกหนึ่งสถานที่เที่ยว ของมาเก๊าที่มีความเก่าแก่ และได้รับความนิยมจาก นักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และที่นี่ถือได้ว่าใครมามาเก๊า ก็จะต้องมากันที่เที่ยวแห่งนี้ นั่นก็คือ ป้อมปราการมองเต Monte Fort ที่นี่จะป้อมปราการที่ มีความเก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า โดยจะตั้งอยู่ใกล้ๆกับ ซากประตูโบสถ์เซนต์พอล ปัอมปราการแห่งนี้นั้น

ได้มีการสร้างขึ้นเมื่อในปี 1616 จุดประสงค์ในการสร้างนั้น ก็เพื่อใช้เป็นฐานที่ไว้สำหรับ การป้องกันโบสถ์เซนต์พอล จากเหล่าโจรสลัดที่มาปล่น และต่อมาก็ได้มีการใช้เป็น ป้อมปืนใหญ่ของเหล่าทหาร โดยที่ฐานของป้อมปืนใหญ่นั้น ก็จะเป็นรูปทรงสี่เหลียม โดยป้อมปราการก็จะมีอยู่ ในแต่ละมุมและตามจุดต่างๆ ก็จะเต็มไปด้วยปืนใหญ่

ที่ได้ตั้งเอาไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชม โดยป้อมปราการแห่งนี้ จะอยูาไกล้กับซากประตู โบสถ์เซนต์พอล เพียงแค่เดินจากซาก ประตูโบสถ์เซนต์พอล ซึ่งจะมีทางเดินทางด้านซ้าย ที่เที่ยวยุโรป เพื่อเดินขึ้นไปยังด้านบน ของป้อมปราการมองเต

และป้อมปืนใหญ่นี้จะตั้งอยู่บน พิพิธภัณฑ์มาเก๊า เพียงแค่เดินขึ้นบันไดไป จนไปถึงชั้นบนสุดก็จะพบกับ ป้อมปืนใหญ่ที่เป็นลานกว้าง นักท่องเที่ยวที่ได้ไปนั่น ก็จะได้ชมประวัติศาสตร์ต่างๆ และรบมไปถึงมองเห็นวิว เมืองของมาเก๊าได้ 360 องศา

ที่มีความงดงามมาก ซึ่งในปี 1838 ป้อมปีนใหญ่ถูกไฟไหม้ ไปพร้อมๆกันวิทยาลัย Jesuit และโบสถ์เซนต์พอล และในปี 1965 ก็เปลี่ยนให้กลายเป็น สำนักงานของกรมอุตุนิยมวิทยา จากนั้นในปี 1998 ก็ได้มีการเปิดตัวขึ้น ให้ประชาชนรบมไปถึง นักท่องเที่ยวได้เข้าชม

จุดชมวิวทึ่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามจนทำให้กลายเป็นหนึ่งในสัญญลักษณ์ของมาเก๊า

พลาดไม่ได้หากใครที่ไปเที่ยวมาเก๊า ต้องมาชมวิวที่แห่งนี้กันทุกคน นั่นก็คือ หอคอยมาเก๊า Macau Tower หอคอยแห่งนี้จะมีจุดชมวิว ที่มีความสูง 223 เมตร ที่สามารถมอฃเห็นวิวได้ 360 องศา โดยมีลานชมวิว Observation Deck รวมไปถึงมีร้านอาหาร ไม่ได้มีเพียงแค่จุดชมวิว เพราะที่นี่ยังมีกิจกรรมอีมากมาย ให้ักท่องเที่ยวได้ท้าความสูง

ที่จะมีอยู่หลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น BungyJump ซึ่งเป็นการโดดจากความสูง 223 เมตร และเป็นจุดโดดบันจี้จัมป์ ที่สุงที่สุดในโลก อีกด้วย หรือว่าจะเป็น SkyJump ที่คล้ายๆกับบันจี้จัมป์ แต่จะมีความเสียวที่น้อยกว่า เนื่องจาก Skyjump จะเป็นการปล่อยตัวลงมา จากสายเคเบิ้ลลงจนถึงพื้น โดยใช้เวลาในการลงสู่พื้นเพียง 17 วินาที

ซึ่งจะไม่ใช่การปล่อยตัวแบบ Free Fall ลงมาแบบบันจี้จัมป์ และ SkyWalk ซึ่งเป็นการใส่ชุดที่มีเคเบิ้ล โดนผูกติดกับตัวแล้วจากนั้น ก็ออกไปเดินที่ทางเดินกระจก ที่เที่ยวสุดหวาดเสียว ที่จะอยู่รอบๆหอคอยแห่งนี้ และ Tower Climb ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เราปีนขึ้นไป จนถึงจุดสูงสุดของหอคอย ด้วยความสูง 338 เมตร

โดยจะเป็นกิจกรรมที่น่ากลัว และต้องใช้พลังงานมากที่สุด จะต้องใช้เวลาในการปีนขึ้นไป และรงมไปถึงการลงประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งกิจกรรมที้งหมดนี้ จะ เปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์ไปจนถึงพฤหัส เวลา 11:00-19:30 และในวันศุกร์เสาร์ 11:00-22:00

เที่ยวยูนนาน

เหล้าแปลก